วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2551

ป่าหินงาม สุดแผ่นดิน ถิ่นกระเจียว


รกฏาคม ลมฝนหล่นมา ฟากฟ้าครึ้มดำ ดอกกระเจียวบานสพรั่งเต็มท้องทุ่งเทพสถิต

อา! ป่าหินงาม สุดแผ่นดิน ถิ่นกระเจียว ควรที่เราจะไปเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าอีกสักครา แล้วการเดินทางแสวงหาสุนทรียภาพแห่งชีวิตก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

วันแรกของการเดินทาง ยกทัพโยธาออกจากกรุงสุวรรณภูมิ ๗ นาฬิกา ๕๙ นาที ฤกษ์ดีศรีมงคล เติมน้ำมันแก๊สโซฮอล ๙๕ เต็มถังด้วยปั๊มน้ำมันที่เราถือหุ้นเป็นเจ้าของกิจการ เดินทัพบ่ายหน้าขึ้นวงแหวนตะวันออก มุ่งสู่วังน้อย แวะเติมเสบียง ณ ข้าวแกงบ้านสวนอันคุ้นเคย สมทบกับอีกสองทัพจากอ่อนนุชและรังสิต แก๊งเด็กป่วน เจอหน้ากันก็ส่งเสียงทักทายเจี๊ยวจ๊าวกันลั่นร้าน ปานประหนึ่งว่าได้เหมาร้านไว้แล้วแต่เพียงพวกเดียว

อิ่มหนำสำราญแล้วเราก็ออกเดินทางต่อไป ผ่านเมืองสระบุรี บ่ายหน้าขึ้นเหนือเข้าพัฒนานิคม ว่าจะแวะไปชมทุ่งทานตะวันสักหน่อย มีจิ้งจกตุ๊กแกร้องทักมาว่า ป่านฉะนี้ยังมิถึงเวลาบานของทานตะวัน เลยเดินทางผ่านเลยไปยังชัยบาดาล แวะน้ำตกวังก้านเหลือง ตามคำเรียกร้องของแก๊งเด็กป่วน

น้ำตกวังก้านเหลือง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่น้ำผุดจากใต้ดิน ไหลเลาะตกปะทะหินผาเป็นชั้นๆ เด็กๆเล่นน้ำกันฉ่ำใจแล้วเราก็เติมเสบียงลงท้องด้วยอาหารประจำภูมิภาค ไก่ย่าง ส้มตำ ข้าวเหนียว และ เป๊ปชี่

บ่ายคล้อย เราก็เคลื่อนคล้อยตามกันต่อไป ฝ่าสายฝนอันหนักหน่วง ตั้งแต่ออกจากชัยบาดาล ผ่านลำสนธิ จนถึงเทพสถิต เลี้ยวขวาเข้าไร่จ่าเทพ จุดหมายปลายทางประจำวันนี้ เพียงแค่ชั่วอึ่งอ่างกลั้นหายใจเดียว น้องสาวสาวสาวอีสานรอรักจากขอนแก่นก็ตามมาติดๆ เจอแล้ว นี่ไง ตัวการพาฝนมาด้วย ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ แล้วเราก็แยกย้ายเข้าบ้านพักหลบพายุฝนกันชั่วคราว ก่อนจะออกมาปะทะคารมกันใหม่เมื่อพายุฝนพ้นผ่าน

ย้อนอดีตกลับไปก่อนหน้านี้เกือบเดือน เมื่อแรกดำริจะเดินทางมายัง ป่าหินงาม สุดแผ่นดิน ถิ่นกระเจียว อีกครา ก็ได้มีการสอบถามเพื่อนพ้องน้องนุ่งในวงการตะลอนทัวร์ว่าจะไปพักค้างอ้างแรมที่ใดดี ได้คำแนะนำมาว่าให้ช่วยไปเซอเวย์ไร่เอ๋ยฝุ่นให้หน่อย เราก็โทรไปจองบ้านเดี่ยวสองหลัง แต่ยังไม่ได้จ่าย กาลต่อมาเมื่ออีกสองกองทัพสนใจมาร่วมสมทบในเวลาอันกระชั้น เราก็โทรไปขอบ้านเพิ่มอีกสองหลัง แต่การณ์กลับกลายเป็นว่าไม่ได้เลยสักหลัง เพราะคนรับจองดันไม่ได้จดจองไว้ ทำให้คนอื่นมาทีหลังได้บ้านไปจนเต็ม ยังความเจ็บช้ำน้ำใจให้เป็นอันมาก เลยต้องรบกวนน้องสาวอีสานรอรักจัดการจองบ้านพักที่ใหม่ให้ ขอบใจนะ เอาเป็นว่าเรื่องที่เกาะช้างและนางยวนเราอโหสิให้ละกัน

เย็นย่ำสายัณห์ตะวันเลี่ยงหลบ พายุฝนก็จบไปแล้ว เราก็มาดินเน่อสังสรรค์กัน พลพรรครักเอยแบ่งเป็นสองกลุ่มโดยธรรมชาติ แก๊งเด็กป่วน กับ กลุ่มบุรุษ สตรี และ คนชรา หลังจากแนะนำตัวทักทายกันดีแล้ว สงครามสนทนาก็เริ่มต้นขึ้นอย่างครื้นเครงและต่อเนื่องยาวนานจนอาหารหมด ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนเพื่อจะตลุยทุ่งกระเจียวกันต่อไปในวันรุ่ง สามกองทัพนอนบ้านอิงดาว อิงเดือน และ ริมธาร ส่วนสาวสาวสาวอีสานรอรักนอนเรือนพักคนงาน เธอว่าอย่างนั้น

วันที่สองของการเดินทาง ตื่นมาฟ้าแจ้งแจงแวง เบรคฟาดด้วยข้าวต้มทะเล (กินข้าวต้มทะเลที่อีสานเนี่ยนะ!) อิ่มหนำสำราญแล้วขบวนคาราวานก็ออกเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ขณะนี้เป็นช่วงเทศกาลทุ่งกระเจียว นักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมามากมาย เราต้องจอดรถไว้เบื้องล่าง แล้วขึ้นรถสองแถวใหญ่ต่อไป พร้อมจ้างยุวมัคคุเทศก์ สาวน้อยน่ารัก เป็นไก๊ด์นำทาง สุดแผ่นดิน ทุ่งกระเจียว แลป่าหินงาม ยังคงงามดุจเดิม ธรรมชาติอันน่าอภิรมย์ยังคงไว้ให้เราได้ชื่นชม และเก็บภาพไปเป็นที่ระลึกกันคนละหลายกิ๊ก

ระหว่างทางแวะซื้อโป๊สก๊าดงามๆหลายใบ ว่าจะส่งไปขอบคุณใครหลายคน ที่ต่างระลึกถึงกันอย่างสม่ำเสมอยามท่องเที่ยว

“ชมป่าหินงามแล้ว เราไปไทรทองกันต่อดีมั๊ย มีคนอยากไปดูผาหำหด” เราเอ่ยถามสาวอีสานรอรัก
“ไปได้ พี่ ไปได้” เธอตอบสนองทันควันอย่างมั่นใจ
“โอเค งั้นเราลั้นช์แล้วลุยเลยนะ ว่าแต่ไปลั้นช์ไหนดีล่ะ”
“เมื่อกี๊ตอนขามาเห็นที่ไร่กัญญารัตน์ คนมุงกันเพียบเลย เราไปลุยร้านนั้นแหละ” สาวอีสานรอรักอีกคนให้ความเห็น

กว่าที่เราจะจัดการกับไก่ย่างตัวสุดท้ายสำเร็จ ก็ปาเข้าไปค่อนเที่ยง อิ่มหนำสำราญกับไก่ตัวละ ๑๘๐ แล้วเราก็ไปอุทยานแห่งชาติไทรทองกันต่อ โดยมีสาวสาวสาวอีสานรอรักขับ วีออส นำไป ส่วนชาวกรุงทั้งหลายขับ ฟอจูเน่อ, เซอฟีโร่ และ ซาฟีร่า ตามอย่างไม่ให้คลาดสายตาเพราะกลัวหลงทาง

แค่ ๔๐ ช่วงคอไดโนเสาร์ ก็ถึงไทรทอง เราขึ้นรถกระบะโฟวีลของทางอุทยานไปต่อ แค่เริ่มลุยข้ามลำน้ำ แก๊งเด็กป่วนก็กรี๊ดสนั่น แล้วยังมีกรี๊ดต่อเป็นระยะๆ ตามจังหวะการโยกซ้ายขวาระหว่างทางขึ้นเขาอีกพอแสบปากแสบคอ จนถึงที่หมาย

แล้วเราก็ได้ชื่นชมผาหำหดสมปรารถนา แต่ใครจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น มิอาจทราบได้ เพราะไม่ได้ตามไปตรวจสอบ แต่ที่แน่ๆ คือตัวข้าพเจ้าเอง เช็คแล้วว่ายังคงความเป็นลูกผู้ชายยืดได้หดได้เหมี๊ยนเดิม

หลังจากเดินป่าฝ่าดงดอกกระเจียวทั้งสี่ทุ่งครบถ้วนแล้ว เราก็เดินทางกลับลงสู่ที่ทำการอุทยาน ว่าจะกลับไร่จ่าเทพแล้ว แต่แก๊งเด็กป่วนประท้วงว่าวันนี้ยังไม่ได้เล่นน้ำตกเลย เลยต้องไปต่อที่น้ำตกไทรทอง จนฝนไล่ อาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า จึงยอมเลิก

ว่าจะกลับไปดินเน่อที่ไร่จ่าเทพอีก แต่เซอฟีโร่แจ้งว่าน้ำมันเหลือแค่ขีดเดียว เสียวจะไปไม่รอด ระหว่างทางจากไทรทองถึงป่าหินงาม ปั๊มหลอดที่พบพานล้วนแล้วแต่ไร้ ๙๕ ทั้งสิ้น หลังจากตระเวนด้วยความตระหนก ในที่สุดเราก็ลงประชามติข้างถนนว่า ต้องไปเติมน้ำมันที่เทพสถิต

เราขับรถเกาะกันไป ๔ คัน ด้วยความใจหงายใจคว่ำ เกรงว่าเซอฟีโร่ จะหมดฤทธิ์ระหว่างทาง ฟ้าก็มืดแล้ว ถนนก็เปล่าเปลี่ยวเดียวดายน่าวังเวงใจ จันทร์เพ็ญเด่นฟ้าคืนนี้ช่วยส่องทางอย่างอ้างว้างเงียบเหงายิ่งนัก

ในที่สุด เซอฟีโร่ ก็ได้เติมน้ำมัน ๙๕ ที่เทพสถิตแบบฉิวเฉียด สองทุ่มแล้ว เราแวะดินเน่อที่ครัวป่ากระเจียว ร้านอาหารที่เจ้าของปั๊มน้ำมันการันตีว่าอร่อยที่สุดในเทพสถิต ถึงร้านปุ๊บ เราเดินดิ่งเข้าชาร์จแม่ครัวปั๊บ ปลาทับทิมตัวเขื่องสองตัวที่เหลืออยู่ถูกเหมาไปทำปลาสามรส กับ ทอดกระเทียมโดยด่วน แม่ครัวรีบแนะนำรายการอาหารที่เหลือติดก้นครัวอยู่ด้วยความห่วงใยเป็นพัลวัน เรารีบตอบรับอย่างรวดเร็วเช่นกัน ขณะที่อาหารกำลังถูกลำเลียงมาสู่โต๊ะ ไฟก็ดับพรึ่บลงทั่วทั้งฟากถนน โอ! เกือบจะเป็นดินเน่อใต้แสงเทียนอันน่าเร้าใจโดยแท้เทียว

ขากลับไร่จ่าเทพราตรีนั้น รถยนต์ ๔ คัน วิ่งเกาะกันไปตามเส้นทางเทพสถิต-ป่าหินงาม อย่างอารมณ์ดี จันทร์เพ็ญเด่นฟ้าคืนนี้ช่วยส่องทางอย่างเยือกเย็นเป็นสุขยิ่งนัก

วันที่สามของการเดินทาง เบรกฟาดแล้วเราก็เช็คบิล คิดค่าเสียหายเสร็จสรรพ ถ่ายรูปหมูร่วมกัน แล็วก็ล่ำลา ชาวกรุงก็กลับกรุง สาวสาวสาวอีสานรอรักก็กลับบ้าน เซอฟีโร่ กับ ซาฟีร่า ตีรถเข้าโคกสำโรง แวะทำบุญที่วัดพระบาทน้ำพุ อิ่มบุญแล้วก็ไปอิ่มท้องต่อที่ครัวบัวหลวง ลพบุรี ก่อนยกทัพกลับสุวรรณภูมิด้วยความสุขเต็มหัวใจ

“ป่าหินงาม สุดแผ่นดิน ถิ่นกระเจียว
เราไปเที่ ยว ถ้วนสนุก แสนสุขสันต์
ผาหำหด ถิ่นไทรทอง ท่องไพรวัลย์
เติมแต้มฝัน อันเพริศแพร้ว แพรวชัยภูมิฯ”


ขอบคุณ สาวสาวสาวอีสานรอรัก ช่วยจองที่พักและนำทาง
ขอบคุณ เพื่อนๆ หลานๆ ที่มาร่วมแจม ทำให้เจี๊ยวจ๊าว
ขอบคุณ ปั๊มน้ำมันสี่แยกเทพสถิต ช่วยชีวิตเซอฟีโร่
ขอบคุณ ร้านอาหารครัวป่ากระเจียว สำหรับดินเน่ออันแสนสนุก
ขอบคุณ ไร่จ่าเทพ สำหรับ อาหารอร่อยๆ และ บ้านพักสวยๆ (แต่ห้องน้ำควรปรับปรุง)
ขอบคุณ อุทยานแห่งชาติ ป่าหินงาม และ ไทรทอง ที่ช่วยดูแลรักษาทุ่งกระเจียวไว้เป็นอย่างดี
ขอบคุณ รองเท้า Nike รุ่น Air Dirt Sneaker และ Tengu III ปกป้องบาทอย่างนิ่มและหนึบตลอดเส้นทาง
ขอบคุณ เพื่อนร่วมเดินทางชีวิตที่รักทุกคนใน ซาฟีร่า
ขอบคุณ สติ ปัญญา ความกล้าหาญ และ กำลังใจ



บันทึกการเดินทางโดย Sneaker Freaker
๒๘ – ๓๐ กรกฏาคม ๒๕๕๐

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก